เรื่อง : อ. อมราภรณ์ วงษ์ฟัก
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
เมื่อเด็กอายุเข้าขวบปีที่ 3 ฟันน้ำนมจะแข็งแรงพอที่จะขบเคี้ยวอาหารแข็งได้แล้ว อวัยวะสำหรับย่อยอาหารสามารถทำงานได้ดีขึ้น จึงเหมาะที่จะฝึกให้เด็กรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ รวมทั้งการฝึกให้เด็กช่วยเหลือตนเองในการรับประทานอาหาร และปลูกฝังเรื่องมารยาทในการรับประทานอาหารอย่างง่ายๆ
พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กไม่ควรคาดหวังกับเด็กมากเกินไป เช่น ต้องการให้เด็กทานอาหารไม่หกเลอะเทอะ ทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้หมด หรือต้องการให้เด็กทานอาหารทุกชนิดที่จัดเตรียมให้ ถ้าพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กเคี่ยวเข็ญเด็กมากเกินไป เด็กจะต่อต้านและไม่ยอมทำตามที่ผู้ใหญ่คาดหวัง ทำให้เกิดปัญหาในการรับประทานขึ้น
การส่งเสริมสุขนิสัยในการรับประทานอาหารของเด็ก
1. แม้ว่าเด็กจะไม่ยอมทานอาหารบางชนิด แต่ถ้าเด็กยังมีน้ำหนักปกติ พ่อแม่ไม่ควรวิตกกังวล ควรให้อาหารเด็กให้เหมาะสมกับความต้องการ ปล่อยให้เด็กทานอาหารตามสบาย ไม่จุกจิกกับเด็ก สร้างบรรยากาศให้แจ่มใสและเป็นเวลาแห่งความสุข
2. การเลือกอาหาร เด็กส่วนมากจะทานอาหารแบบผู้ใหญ่ได้ แต่ต้องรสอ่อนและทำให้อาหารนิ่มกว่าของผู้ใหญ่ แต่อาหารบางชนิด เช่น ผักที่มีกลิ่นฉุน เช่น ผักชี ต้นหอม หรือผักที่มีความแข็ง เช่น คะน้า เด็กอาจไม่ยอมทานเพราะเหม็นหรือแข็ง พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กควรหลีกเลี่ยงและใช้ผักอื่นทดแทน จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกที่ดีต่อการทานอาหาร
3. การไม่ยอมทานอาหาร เมื่อเด็กอายุประมาณ 4-5 ปี เด็กมักจะปฏิเสธไม่อยากทานอาหาร ไม่ชอบอาหารที่มีอยู่ อาจเป็นเพราะเด็กห่วงเล่น หรือได้ทานอาหารอื่นๆ เช่น ขนมขบเคี้ยว หรือขนมหวานก่อนถึงเวลาอาหาร ดังนั้น พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กต้องเชิญชวนให้เด็กรับประทานอาหารบ้าง เมื่อชักชวนให้เด็กรับประทานช้อนแรกได้แล้ว เด็กก็จะลืมความหงุดหงิดและทานอาหารต่อไปได้ ฉะนั้น พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กต้องใจเย็น อดทน และไม่ควรให้เด็กทานขนมหรือนมก่อนเวลาอาหาร เพราะจะทำให้เด็กอิ่ม
4. อย่าให้เด็กอมข้าวในปากนานเกินไป เพราะน้ำลายจะละลายเม็ดข้าวให้เป็นน้ำตาล เด็กจะไม่รู้สึกหิวและไม่ยอมทานอาหารต่อไป
5. สำหรับเด็กที่ไม่ชอบทานข้าว ควรให้ทานอาหารประเภทอื่นทดแทนบ้างเป็นบางมื้อ เช่น ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมปังและแกงจืด อย่าบังคับให้ทานข้าวทุกมื้อทุกวัน
--------------------------------------------------------------------
กล้วยหอมทอดฟลุตสลัดฮันนี่
ส่วนผสม
กล้วยหอม 6 ใบ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายป่น 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับทอด
น้ำตาลไอซิ่ง
ผลไม้ในน้ำเชื่อมหรือผลไม้สดตามชอบ
น้ำผึ้ง
กล้วยหอม 6 ใบ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายป่น 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับทอด
น้ำตาลไอซิ่ง
ผลไม้ในน้ำเชื่อมหรือผลไม้สดตามชอบ
น้ำผึ้ง
วิธีทำ
1.ปอกเปลือกกล้วยออก แล้วหั่นตามขวางเป็นชิ้นยาวประมาณ 3 นิ้ว
2.นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพดร่อนรวมกันแล้วใส่น้ำตาลทรายป่นและเกลือป่นพร้อมกับค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าลงผสมให้เข้ากันจนแป้งเนียนดี
3.นำกล้วยหอมที่หั่นไว้ไปชุบลงในน้ำแป้งที่ผสมไว้ นำลงทอดในน้ำมันพืชร้อนปานกลางพอเหลืองทั่วทั้งชิ้น แล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4.เวลาเสิร์ฟ จัดกล้วยหอมทอดใส่จาน ตักผลไม้วางข้าง ๆ ราดน้ำผึ้งโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง
- Thanks : Sanook.com
0 comments:
Post a Comment